1.ที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม เป็นการจำแนกที่ดินเพื่อใช้ประโยชน์ตามความเหมาะสมในการปลูกพืช แบ่งออกได้เป็น 4 ประเภทดังนี้
ดินเหนียวที่มีการระบายน้ำไม่ดี เกิดจากตะกอนที่แม่น้ำและทะเลพามาทับถมเหมาะต่อการปลูกข้าว ซึ่งอาจปลูกได้ปีละ 2 ครั้ง ถ้ามีการชลประทานช่วยสำหรับพืชที่ปลูกครั้งที่ 2 อาจเป็นข้าวหรือพืชไร่ก็ได้
พืชไร่ที่ปลูกในบริเวณนี้ ได้แก่ ข้าวโพด ถั่วต่าง ๆๆเป็นต้นส่วนดินที่เกิดจากน้ำทะเลพามาทับถมจะเป็นดินกร่อยอาจใช้ปลูกผักผลไม้หรือไที่ไม้ดอก ม้การปลูกต้องใช้วิธียกร่องแล้วล้างเนื้อดินที่เค็มก่อนทำการปลูก ดินที่เหมาะสมในการปลูกข้าวพบในเขตภาคกลาง ที่ราบลุ่มน้ำภาคเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือและตะวันออกเฉียงใต้
1.2 ที่ดินที่เหมาะสมในการปลูกข้าวและพืชไร่ เป็นที่ดินที่มีการระบายน้ำเลวถึงดี ลักษณะเป็นดินร่วนหรือดินทราย เหมาะในการปลูกข้าวส่วนดินที่มีการระบายน้ำดีเหมาะต่อการปลูก พืชไร่ ซึ่งได้แก่ ข้าวโพด ข้าวฟ่าง ฝ้าย ยาสูบ อ้อย ถั่ว ผลไม้ เป็นต้น พบมากทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางและบางส่วนของภาคใต้
1.3 ที่ดินที่เหมาะสมในการปลูกไร่และพืชยืนต้น เป็นดินที่มีการระบาย
น้ำดี เนื้อดินเป็นดินปนทราย เกิดจากตะกอนค่อนข้างใหม่ถึงเก่าที่แม่น้ำพามาทับ
ถมหรือเกิดจากการผุพังของหิน ใช้ปลูกข้าวโพด ข้าวฟ่าง ฝ้าย ยาสูบ ละหุ่ง ถั่ว
การปลูกพืชควรใช้ปุ๋ยปรับปรุงบำรุงดิน ในพื้นที่ลาดเทต้องป้องกันการพังทะลาย
1.4 ที่ดินที่ไม่เหมาะในการปลูกพืช ส่วนใหญ่เป็นที่ดินในเขตที่สูงชัน พบดินหลายประเภท และยังรวมไปถึงดินทรายชายฝั่งทะเล ดินเกลือตามเขตที่สูงหรือปลูกยางพารา ในบริเวณชายฝั่งทะเลจะเป็นป่าพุ่มนากุ้ง นาเกลือ และใช้ปลูกมะพร้าว พบตามเขตภูเขาที่สูงในภาคต่าง ๆๆ ของประเทศและตามชายฝั่งทะเล
2.ที่ดินเพื่อเป็นป่าไม้ ป่าไม้มี 2 ประเภท คือ ป่าไม้ต้นน้ำลำธาร กับป่าไม้ที่มีการผลิตไม้ออกจำหน่ายป่าไม้ต้นน้ำลำธาร จะใช้ที่ดินที่เป็นภูเขาหรือที่สูงชัน เช่น ภูเขาที่สูงทางภาคเหนือ ภาคตะวันตก ขอบของที่ราบสูงโคราช เป็นต้น ควรใช้ที่ดินเป็นป่าไม้เพื่ออนุรักษ์ดินและน้ำ ส่วนที่ลาดชันน้อยกว่าพื้นที่อาจเป็นลูกคลื่นสูง ๆๆ ต่ำ ๆๆ ความอุดมสมบูรณ์ที่ควรปลูกต้นไม้เพื่อจำหน่าย เมื่อตัดแล้วต้องปลูกทดแทนถ้านำที่ดินบริเวณนี้มาทำการเพาะปลูกจะเกิดการพังทลายอย่างรุนแรง
3.ที่ดินเพื่อเป็นแหล่งอุตสาหกรรม เป็นการใช้ที่ดินเพื่อเป็นที่ตั้งของโรงงาน หรือ สิ่งอื่น ๆที่เกี่ยวข้องกับโรงงานที่ดินที่เป็นที่ตั้งของโรงงานควรมีลักษณะเป็นที่ราบ ชั้นดินแข็งแรงสามารถรองรับน้ำหนักได้ดี ที่ดินที่จะใช้เป็นแหล่งอุตสาหกรรมไม่จำเป็นต้องใช้ที่ดินที่มีความอุดมสมบูรณ์ดังนั้นบริเวณใดที่ใช้ในการเพาะปลูกไม่ได้แต่มีปัจจัยต่าง ๆๆ เหมาะสมต่อการพัฒนามาเป็นแหล่งอุตสาหกรรมก็ควรมีการวางแผนการใช้ที่ดินในบริเวณนั้นเป็นแหล่งอุตสาหกรรมหรือจัดเป็น นิคมอุตสาหกรรม เพื่อการควบคุมหรือการพัฒนาแหล่งอุตสาหกรรมทำได้ง่าย
4.ที่ดินเพื่อเป็นที่อยู่อาศัย ชุมชน และเมือง ความต้องการใช้ที่ดินเพื่อเป็นที่อยู่อาศัย ถนนหนทาง ศูนย์การค้า สถานที่ทำงาน สถานที่ศึกษาและอื่น ๆๆ ยิ่งจำนวนประชากรเพิ่มมากขึ้น ความต้องการใช้ที่ดินประเภทนี้จะเพิ่มมากขึ้นตามลำดับลักษณะที่ดินที่เหมาะในการใช้เป็นที่ตั้งของเมืองชุมชนหรือที่อยู่อาศัยจะต้องมีลักษณะการระบายน้ำดี สามารถสร้างเส้นทางคมนาคมขนส่งติดต่อกับที่อื่น ๆๆ ได้สะดวก เป็นต้น
5.ที่ดินเพื่อเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจ
ที่ดินประเภทนี้ควรมีสภาพตามธรรมชาติ สวยงาม มีอากาศบริสุทธิ์ ได้แก่ บริเวณป่าเขา น้ำตก เกาะ ถ้ำแม่น้ำลำธาร เป็นต้น
ที่ดินประเภทนี้ควรมีสภาพตามธรรมชาติ สวยงาม มีอากาศบริสุทธิ์ ได้แก่ บริเวณป่าเขา น้ำตก เกาะ ถ้ำแม่น้ำลำธาร เป็นต้น
